จ่ายค่าซอฟต์แวร์-ค่าจ้างโปรแกรมเมอร์ต่างประเทศ ต้องหัก ณ ที่จ่ายหรือไม่?

สำนักงานบัญชี รับทำบัญชี โปรแกรมบัญชี รับจดทะเบียนบริษัท อบรมบัญชี รับตรวจสอบบัญชี

 สรุปคำวินิจฉัยกรมสรรพากร...จ่ายค่าซอฟต์แวร์-ค่าจ้างโปรแกรมเมอร์ต่างประเทศ ต้องหัก ณ ที่จ่ายหรือไม่?

  ไขข้อข้องใจสำหรับธุรกิจไทยที่ต้องจ่ายเงินไปต่างประเทศสำหรับค่าบริการ Cloud, SaaS หรือจ้างโปรแกรมเมอร์ต่างชาติ สรุปหลักเกณฑ์ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ตามแนวคำวินิจฉัยล่าสุดจากกรมสรรพากร แยกชัดระหว่าง "ค่าสิทธิ" และ "กำไรจากธุรกิจ" เพื่อให้คุณปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง

  ในยุคดิจิทัลที่ธุรกิจไทยต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและบริการจากต่างประเทศเป็นเรื่องปกติ คำถามที่ผู้ประกอบการมักสงสัยอยู่เสมอคือ เมื่อมีการจ่ายเงินค่าบริการเหล่านี้ไปให้บริษัทในต่างประเทศ เช่น ค่าบริการ Cloud, ค่าใช้โปรแกรม (SaaS) หรือค่าจ้างพัฒนาซอฟต์แวร์ เรามีหน้าที่ต้อง หักภาษี ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) หรือไม่?

  บทความนี้จะสรุปแนวทางล่าสุดจากคำวินิจฉัยของกรมสรรพากร เพื่อเป็นแนวทางให้ธุรกิจของคุณวางแผนและปฏิบัติเรื่องภาษีได้อย่างถูกต้อง

หัวใจสำคัญ คือต้องแยกให้ออกระหว่าง 'ค่าสิทธิ' และ 'กำไรจากธุรกิจ'

  ตามหลักการของ อนุสัญญาภาษีซ้อน (Double Taxation Agreement) ซึ่งประเทศไทยทำไว้กับหลายประเทศ การจ่ายเงินไปต่างประเทศจะถูกพิจารณาเป็น 2 ประเภทหลักที่มีภาระภาษีต่างกัน คือ

  1.    ค่าสิทธิ (Royalties) คือการจ่ายเงินเพื่อ "สิทธิ" ในการนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เช่น สิทธิในการทำซ้ำ, ดัดแปลง, หรือจัดจำหน่ายโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หากเข้าข่ายเป็นค่าสิทธิ ผู้จ่ายเงินในไทยมีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย (อัตราตามที่ระบุในอนุสัญญาฯ ของแต่ละประเทศ ปกติประมาณ 5-15%)
  2.   กำไรจากธุรกิจ (Business Profits) คือการจ่ายเงินค่าบริการทั่วไปที่ผู้รับเงินไม่ได้ให้ "สิทธิ" ตามข้อ 1 แก่เรา เช่น การให้บริการประมวลผล, การรับจ้างทำงานให้ตามสั่ง โดยกำไรจากธุรกิจจะได้รับ ยกเว้นภาษีในประเทศไทย ตราบใดที่บริษัทผู้ให้บริการในต่างประเทศนั้น ไม่มีสถานประกอบการถาวร (Permanent Establishment - PE) ในประเทศไทย

จากข้อหารือล่าสุด กรมสรรพากรได้วางบรรทัดฐานที่ชัดเจนใน 2 กรณีศึกษาดังนี้

กรณีที่ 1 จ่ายค่าบริการ Cloud, Infrastructure, SaaS ให้บริษัทในสหรัฐอเมริกา

  •     ลักษณะบริการ ใช้บริการโครงสร้างพื้นฐานไอที, พื้นที่จัดเก็บข้อมูล, ระบบประมวลผลบนคลาวด์ และใช้ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปผ่านเว็บไซต์ (SaaS) โดยสิทธิในการใช้งานมีจำกัด ไม่สามารถทำซ้ำ ดัดแปลง หรือโอนให้ผู้อื่นได้
  •     คำวินิจฉัย การจ่ายเงินลักษณะนี้ ไม่ถือเป็นค่าสิทธิ เพราะเราได้เพียงสิทธิ์ในการ "เข้าใช้บริการ" เท่านั้น ไม่ได้สิทธิ์ในการนำซอฟต์แวร์ไปทำซ้ำหรือดัดแปลงแก้ไข จึงจัดเป็น "กำไรจากธุรกิจ" ของบริษัทในสหรัฐฯ
  •     สรุป เมื่อบริษัทผู้ให้บริการไม่มีสถานประกอบการถาวรในไทย จึงไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย

กรณีที่ 2 จ้างบริษัทในไอร์แลนด์และฮังการี เขียนโปรแกรมตามสั่ง (Work for Hire)

  •     ลักษณะบริการ ว่าจ้างบริษัทต่างชาติให้เขียนและพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตามความต้องการของเรา (Job Order) คิดค่าจ้างตามชั่วโมงหรือวันทำงาน และที่สำคัญคือ "กรรมสิทธิ์ในโปรแกรมที่เขียนเสร็จแล้วตกเป็นของผู้ว่าจ้าง (บริษัทไทย)"
  •     คำวินิจฉัย การจ่ายเงินในลักษณะนี้ถือเป็น ค่าจ้างทำงานหรือให้บริการ ซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) และจัดเป็น "กำไรจากธุรกิจ" ของบริษัทต่างชาติ
  •     สรุป เนื่องจากเป็นการรับจ้างทำงาน และบริษัทผู้รับจ้างไม่ได้เข้ามาประกอบกิจการหรือมีสถานประกอบการถาวรในไทย จึงไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย

ตารางสรุป การหักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับบริการดิจิทัลจากต่างประเทศ

ประเภทการจ่ายเงิน

ลักษณะตามสัญญา

เข้าข่ายเงินได้ประเภท

ต้องหัก ณ ที่จ่ายหรือไม่?

ค่าบริการ Cloud / SaaS / Infrastructure

เป็นผู้ใช้งาน (End User) ไม่ได้สิทธิ์ทำซ้ำหรือดัดแปลง

กำไรจากธุรกิจ

ไม่ต้องหัก

ค่าจ้างเขียน/พัฒนาโปรแกรม

กรรมสิทธิ์ในโปรแกรมเป็นของผู้ว่าจ้าง (บริษัทไทย)

กำไรจากธุรกิจ

ไม่ต้องหัก

ค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ (เพื่อทำซ้ำ/ดัดแปลง/จำหน่าย)

ได้รับสิทธิ์ในการนำไปผลิตซ้ำ ดัดแปลง หรือจำหน่ายต่อ

ค่าสิทธิ (Royalty)

ต้องหัก

  ข้อควรระวัง เอกสารสัญญาและการตกลงทางธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการพิจารณาภาระภาษี ควรระบุเงื่อนไขเรื่อง "กรรมสิทธิ์" และ "ขอบเขตการให้สิทธิ์" ให้ชัดเจนในสัญญาเสมอ หากไม่แน่ใจควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อความถูกต้องและปลอดภัยของธุรกิจ

บทความทางบัญชี

กรุณากรอกข้อความ...